XRP คืออะไร

XRP คืออะไร

เหรียญ XRP ที่กำลังมีชื่อเสียงคือเหรียญอะไร?



XRP คือหนึ่งในเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีที่ถูกสร้างโดย Ripple Labs ที่มีวัตถุประสงค์สำคัญเป็นตัวกลางในการส่งต่อมูลค่าระหว่างบุคคลหรือธนาคาร ผ่าน Ripple Network ได้สะดวกและรวดเร็ว ด้วยเทคโนโลยี XRP Ledger ซึ่งถือว่าเป็นเหรียญที่มีมูลค่าตลาดรวมอันดับต้น ๆ ของโลกคริปโทเคอร์เรนซี





จุดเริ่มต้นของ XRP และ Ripple 



จุดเริ่มต้นจากการเป็น Opencoin ในปี ค.ศ. 2012 ก่อตั้งโดย Jed McCaleb ก่อนจะเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์บริษัทในชื่อใหม่ที่เรียกว่า Ripple เมื่อปี 2015 ที่ทุกคนรู้จักกันในทุกวันนี้ โดยมีหนึ่งในผู้บริหารคือ Chris Larsen 



Ripple ต้องการเป็นทางออกสำหรับปัญหาด้านการชำระเงินออนไลน์ จึงได้คิดค้นเครือข่ายในการชำระเงินที่มีความโปร่งใส รวดเร็ว และไร้ตัวกลางให้กับธนาคาร ผู้ให้บริการ หรือสถาบันการเงินต่าง ๆ ผ่านเครือข่ายของ Ripple โดยสามารถแลกเปลี่ยนมูลค่ากันได้ด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลนามว่า XRP นั้นเอง





XRP Ledger (XRPL) คืออะไร? 



XRP Ledger คือกระดูกสันหลังของเครือข่าย XRP หรือระบบฉันทามติเฉพาะของทาง Ripple ที่ถูกสร้างโดยมุ่งเน้นไปที่ความเร็วในการทำธุรกรรมที่สูง เพื่อให้ง่าย สะดวกรวดเร็ว และมีค่าธรรมเนียมที่ถูก เพื่อการส่งมูลค่าไปที่ไหนบนโลกก็ได้ผ่านอินเทอร์เน็ต 



XRP Ledger มีจำนวนผู้ตรวจสอบธุรกรรมมากกว่า 150 โหนด คอยตรวจสอบและยืนยันธุรกรรม รวมถึงรักษาความปลอดภัยในกับเครือข่าย ตามหลักการกระจายอำนาจ (Decentralization) ของเทคโนโลยีบล็อกเชน 





จุดเด่นของ XRP 



ด้านการใช้งาน



จุดประสงค์หลักของเหรียญ XRP คือใช้ชำระเงินหรือแลกเปลี่ยนสกุลเงินจริงด้วยค่าธรรมเนียมที่ถูกมาก เริ่มต้นเพียง 0.00001 XRP และมีการยืนยันธุรกรรมที่รวดเร็ว เฉลี่ย 1,500 ธุรกรรมต่อวินาที โดยเคยทำสถิติสูงสุดที่ 65,000 ธุรกรรมต่อวินาที เมื่อวันที่ 19 ก.ค 2019 



ด้านพลังงาน 



เครือข่ายของ XRP มีการใช้พลังงานไฟฟ้าได้มีประสิทธิภาพมากกว่าหลาย ๆ เหรียญคริปโตมีการใช้ระบบฉันทามติอย่าง Proof of Work (PoW) เป็นหลัก แต่ XRP ได้มีระบบฉันทามติเฉพาะตัวอย่าง Ripple Protocol Consensus Algorithm (RPCA) 



จากสถิติการใช้พลังงานไฟฟ้าเปรียบเทียบเกับ Bitcoin และ Ethereum ในปี 2019 ด้วยธุรกรรมจำนวน 60 ล้านธุรกรรมเพื่อตรวจสอบปริมาณไฟฟ้า โดย Bitcoin ใช้อยู่ที่ 57.09 พันล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง Ethereum ใช้ 2.57 พันล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ขณะที่ XRP ใช้เพียง 4.74 แสนกิโลวัตต์ต่อชั่วโมงเท่านั้น



การใช้พลังงานไฟฟ้าของบิทคอยน์ และ อีเธอเรียม เมื่อเทียบกับประเทศโปรตุเกสที่มีการใช้พลังงานไฟฟ้าเฉลี่ย 46.94 พันล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ในแต่ละปี เรียกได้ว่าระบบฉันทามติภายในเครือข่าย บิทคอยน์ และ อีเธอเรียม อาจใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อตรวจสอบและบันทึกข้อมูลบนบล็อกเชนมากกว่าที่คุณคิด



ด้านเทคโนโลยี



แม้วัตถุประสงค์หลักของ XRP จะเป็นการทำธุรกรรมด้วยความเร็วที่มากกว่า และมีค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่า แต่ผู้พัฒนาก็ยังพยายามที่จะเสริมประสิทธิภาพในการทำงานที่มากขึ้น ด้วยการเสริมฟังก์ชันในการสร้างสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ผ่าน XRP Ledger ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา





สรุป



สำหรับเหรียญ XRP ที่เรียกได้ว่าเป็นเหรียญที่ถูกสร้างขึ้นมาในช่วงแรกของคริปโทเคอร์เรนซี ที่มีจุดเด่น และเอกลักษณ์เฉพาะของตนเอง ยังมีแผนพัฒนาอยู่เสมอเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานปัจจุบัน จึงเป็นอีกหนึ่งเหรียญที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตาม ทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง โปรดศึกษาหาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน





อ้างอิง:



Ripple, Investopedia, Binance Research, XRP Ledger

Crypto

บทความล่าสุด

โทเคนดิจิทัล| Price Today!

อัพเดทตลาด

เนื้อหาและกิจกรรมดังกล่าวจัดทำโดยบริษัท บิทคับ แล็บส์ จำกัด ซึ่งไม่ใช่ผู้ประกอบธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต.